| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
การขับขี่รถยนต์ให้นุ่มนวลนั้น ต้องอาศัยยางรถยนต์ที่เหมาะสม และเหนือไปกว่านั้นต้องรู้เรื่องการเติมลมยาง เป็นสำคัญด้วย หากเราเติมลมยางไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลเสียกับยาง ความนุ่มนวลในการขับขี่ และอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกันครับ ความดันลมยางสำคัญอย่างไร ยางรถยนต์เปรียบเสมือนเกราะกันกระแทกระหว่างรถยนต์ และพื้นถนน เพื่อให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ ยางทุกเส้นจึงต้องได้รับการเติมลมก่อนใช้งานและควรรักษาระดับความดันลมยางให้ไกล้เคียงกับที่โรงงานผู้ผลิตกำหนด อย่างไรก็ตามความดันลมยางจะลดลงหลังจากการใช้งาน ดังนั้นจึงควรเช็คระดับความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางรถคุณ
เติมลมเมื่อยางเย็น ควรเช็คลมยางในขณะที่ยางเย็น หรือก่อนการใช้งาน ทั้งนี้เมื่อล้อเริ่มหมุนยางจะเกิดการเปลี่ยนรูป ทำให้อากาศภายในเกิดการเคลื่อนไหวจนทำให้เกิดความร้อนขึ้น อากาศภายในยางขยายตัวความดันลมจะเพิ่มสูงขึ้นในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเติมลมหลังใช้งานแล้ว การเติมลมเพิ่มขึ้นอีก 2 ปอนด์เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัว ใส่ฝาวาล์วยางให้สนิท ควรตรวจเช็คฝาวาล์วยางให้สนิท เพื่อป้องกันเศษผง ฝุ่น หรือความชื้นซึมผ่านเข้าภายในยาง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อยางรถยนต์ได้ การสูบลมยาง 1.ตรวจเช็คลมยางขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือในช่วงเวลาก่อนออกเดินทางและปรับแต่งให้ถูกต้องตามอัตราที่โรงงาผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเป็นประจำ ตรวจเช็คความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ควรตรวจเช็คความดันลมยางของรถ ให้อยู่ระดับที่ผู้ผลิตกำหนดเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างสม่ำเสมอ โดยปกติโรงงานประกอบรถยนต์จะระบุระดับความดันลมยางที่เหมาะสมกับรถไว้บนแผ่นโลหะบริเวณขอบประตูหรือกำหนดในคู่มือประจำรถ การเติมลมยางที่ถูกต้องนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานได้แก่รถคุณด้วย นอกจากนี้การเติมรถยางที่ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้รถยนต์เสียการทรงตัวเมื่อเบรคหยุดหรือเร่งความเร็ว หรือรถถูกดึงไปด้านใดด้านหนึ่งขณะขับและทำให้ยางสึกไม่เท่ากันด้วย การเติมลมยางมากเกินไป ทำให้หน้าสัมผัสของยางกับพื้นผิวถนนลดลง ดอกยางบริเวณกลางจะสึกมากกว่าด้านข้างทั้งสอง และเนื่องจากความยืดหยุ่นของยางลดลงทำให้โครงสร้างผ้าใบเสียหายได้ง่าย และยังทำให้รถกระดอนเมื่อวิ่งบนถนนขรุขระ การเติมลมยางน้อยไป ทำให้ดอกยางไม่เรียบ โดยดอกยางบริเวณไหล่ยางจะสึกเร็วกว่าบริเวณกลางยาง เกิดความร้อนสูงขณะยางเปลี่ยนรูปและแรงกระแทกจะทำให้โครงสร้างผ้าใบเสียหาย และไม่สามารถคืนกลับสภาพเดิม กรณีสูบลมยางน้อยกว่ากำหนด (TIP) - อายุยางลดลง - บริเวณไหล่ยางจะสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น ๆ กรณีสูบลมยางมากกว่ากำหนด - เกิดการลื่นไถลได้ง่าย เนื่องจากพื้นที่การยึดเกาะถนนลดลง เช็คลมยางอย่างไรให้ถูกต้อง ลมยางจะลดลงโดยตัวมันเองประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน ดังนั้นจึงควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ขณะที่ยางยังเย็นอยู่ โดยเติมลมยางตามคู่มือรถแต่ละคันที่ติดอยู่ที่ข้างประตูรถ
การบรรทุกของหนัก น้ำหนักบรรทุกมีผลอย่งมากต่ออายุของยาง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องควบคุมน้ำหนักบรรทุกให้มีความสัมพันธ์กับความดันลมภายในยาง และไม่ควรเติมความดันลมยางให้มากกว่าที่กำหนด เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของยางให้มากขึ้น เพราะการเพิ่มความดันลมยางมากขึ้นจะมีผลต่อยางดังที่กล่าวมาแล้ว ในกรณีที่บรรทุกน้ำหนักเกินอัตรา โครงยางบริเวณแก้มยาง หรือขอบยางหักหรือระเบิดได้ง่ายเนื่องจากรับน้ำหนักที่กดลงมาไม่ไหว ความร้อนภายในยางจะเกิดขึ้นสูงมาก ทำให้การยึดเกาะระหว่างเนื้อยางกับโครงยางลดลง และแยกออกจากกันได้ง่าย การเคลื่อนไหวของหน้ายางมีมาก ทำให้ยางสึกหรอเร็ว และทำให้อายุยางลดลง การสลับตำแหน่งยาง ยางรถยนต์จะเกิดการสึกหรอไม่เท่ากันทุกเส้น โดยมีสาเหตุจาก - สภาพรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งล้อหน้าจะเกิดการสึกผิดปกติของดอกยางง่ายที่สุด ดังนั้น เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานได้นาน ควรสลับตำแหน่งยางอยู่เสมอ (ยางเรเดียล ควรสลับตำแหน่งยางทุก 10,000 กม.) ข้อควรจำ ความแตกต่างของแรงดันลมเพียง 1 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 14 ปอนด์/ตร.นิ้ว จะรับน้ำหนักต่างกันถึง 400 ก.ก. ถ้าแรงดันลมต่างกัน 2 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 28 ปอนด์/ตร.นิ้ว จะรับน้ำหนักต่างกันถึง 800 ก.ก. ในกรณีแรงดันลมต่างกัน 2 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 28 ปอนด์/ตร.นิ้ว ยางเส้นที่เติมลมมาก จะมีอายุใช้งานเพียง 70% เส้นที่ลมยางอ่อนจะมีอายุการใช้งานเหลือเพียง 45% การเติมลมให้เท่ากันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ผมหวังว่าบทความนี้ จะช่วยท่านผู้อ่านทุกท่านในเรื่องของการเติมลมยางให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อความประหยัด การขับขี่ที่นุ่มนวล แสนสบาย และเหนือสิ่งอื่นใด คือ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของท่านผู้อ่านเองครับ ที่มา : นาย Asn Broker @ oknation.net เติมลมยาง,พื้นยางรถ,แรงดันลมยาง
|
|
|